เตือน! อีเมล์ขยะอาละวาดช่วงส่งท้ายปีเก่า-ต้อนรับปีใหม่

นางภัทราภา หงส์คำดี ที่ปรึกษาทางเทคนิค บริษัท ไซแมนเทค คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า ไซแมนเทครายงานสถานการณ์อีเมล์ขยะประจำเดือน ธ.ค. 2550 ที่เป็นเดือนแห่งการส่งท้ายปีเก่าและต้อนรับปีใหม่ โดยผลการวิเคราะห์ในเดือนนี้ ไม่ค่อยน่ายินดีสักเท่าไหร่เนื่องจากระดับของอีเมลขยะทั้งหมดเพิ่มขึ้นจาก 3 ใน 4 ของจำนวนอีเมล์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นในเดือน พ.ย.2550 โดยทิศทางของการเติบโตคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 64% ของจำนวนอีเมล์ทั้งหมดนับตั้งแต่เดือน พ.ย.ที่ผ่านมา
ที่ปรึกษาทางเทคนิค บริษัท ไซแมนเทคฯ กล่าวต่อว่า บรรดาสแปมเมอร์ช่วงนี้ หันมาให้ความสนใจเป็นพิเศษกับเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ หรือ รวมถึงเหตุการณ์สำคัญในปี 2008 โดยการส่งอีเมล์ขยะหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นอีเมล์ขยะแนบการ์ดอวยพรคริสต์มาสและปีใหม่ รวมถึงอีเมล์ขยะการโฆษณากีฬาโอลิมปิก ที่ปักกิ่ง ประเทศจีน ในปี 2008 เพื่อเก็บข้อมูลส่วนตัวของผู้ตกหลุมพรางและนำไปใช้ประโยชน์เพื่อการฉ้อฉล
นางภัทราภา กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ในรายงานยังได้ระบุถึงประเด็นที่น่าสนใจอื่นๆ อีกหลายประเด็น ได้แก่ อีเมล์ขยะเกี่ยว กับกีฬาโอลิมปิกปี 2008 ที่จะจัดขึ้น ณ กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน ที่จะเกิดขึ้นในอีก 9 เดือนข้างหน้า อีเมล์ขยะประเภทข่าวซุบซิบดาราฮอลลีวูด โดยการพาดหัวข่าวเกี่ยวกับดาราที่เป็นกระแสของประชาชน เช่น บรีทนีย์ ลินเซย์และดอนนี่ ออสมอนต์ รวมถึงการโจมตีด้วยการส่งอีเมล์แจ้งเด็กหายสาบสูญเพื่อแพร่ไวรัส
ที่ปรึกษาทางเทคนิค บริษัท ไซแมนเทคฯ ยังกล่าวถึงอีเมล์เกี่ยวกับการฉ้อฉลและการโกงว่า มีการปรับตัวสูงขึ้น โดยอีเมล์ขยะประเภทดังกล่าว เพิ่มขึ้น 19% จากจำนวนอีเมล์ทั้งหมดในเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา นอกจากนั้น ยังมีอีเมล์ขยะประเภทที่ใช้หัวเรื่องเป็นข้อความเกี่ยวกับเทศกาลวันขอบคุณพระเจ้า อีเมล์ขยะแนบไฟล์รูปภาพการต่อสู้โดยขว้างปาหิมะ รวมทั้งอีเมล์ขยะล่อลวงเพื่อโฆษณาขายของขวัญเทศกาลคริสต์มาส-ปีใหม่ และอีเมล์ขยะที่แจ้งประกาศเรื่องการถูกรางวัลต่างๆ

คิงส์ตัน เผยโฉมเมมโมรี่ DDR2

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้ บริษัท คิงส์ตัน เทคโนโลยี อิงค์ ผู้พัฒนาและผลิตเมโมรี่รายใหญ่ของโลก ประกาศวางจำหน่าย 1066MHz ValueRAM® ประกาศย้ำความเป็นผู้นำเทคโนโลยีหน่วยความจำอีกครั้ง ล่าสุด เผยโฉม DDR2 1066 MHz รุ่นใหม่ระบุออกแบบเป็นพิเศษเพื่อรองรับการทำงานบน AMD Phenom™ โปรเซสเซอร์ตัวใหม่จากค่ายเอเอ็มดี ภายหลังจากที่ได้ร่วมมือทำงานอย่างใกล้ชิดกับเอเอ็มดีสำหรับการเปิดตัวแพลตฟอร์ม Spider ที่ประกอบด้วยโปรเซสเซอร์ Phenom™ การ์ดจอ ATI Radeon™ HD 3800 Series และชิปเซ็ต AMD 7-Series เพื่อรับประกันความสามารถในการแสดงสมรรถนะระดับสูงสุด
ทั้งนี้ เมมโมรี่ 1066MHz ValueRAM® ของคิงส์ตันได้อาศัยข้อได้เปรียบจากความสามารถในการทำงานของฟีนอมเพื่อนำเสนอประสิทธิภาพการทำงานที่แท้จริงจากเทคโนโลยีโปรเซสเซอร์ระดับสี่แกนประมวลผล

เจ๊บเซ่นฯ บุกตลาดแฟชั่น ส่งหูฟังไฮเทคเอาใจวัยรุ่น

นายจรัสพงศ์ เจนจรัลสกุล ผู้จัดการทั่วไป ผลิตภัณฑ์ดิจิตอลไลฟ์สไตล์ บริษัทเจ๊บเซ่น แอนด์ เจ๊สเซ่น มาร์เก็ตติ้ง (ที) จำกัด กล่าวว่า บริษัทฯได้เตรียมนำเข้าผลิตภัณฑ์ดิจิตอลไลฟ์สไตล์ใหม่ล่าสุดเป็นนวัตกรรมที่เหมาะกับคนรุ่นใหม่ ภายใต้แบรนด์ สคัลแคนดี้ เป็นแบรนด์ที่ความโดดเด่นเรื่องการดีไซน์ การออกแบบที่ทันสมัยพร้อมด้วยคุณภาพเสียงที่มีประสิทธิภาพ ช่วยตัดเสียงรบกวนภายนอกได้ในขณะฟังเพลงรวมถึงความหลากหลายทางนวัตกรรม เช่นการออกแบบที่ช่วยให้ผู้ฟังสะดวกสะบายในการเคลื่อนไหวเหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบในการฟังเพลง เล่นเกมส์ หรือสื่อสารด้วยโปรแกรมเสียงทางอินเทอร์เน็ต และผู้ที่ชื่นชอบเทรนด์แฟชั่นใหม่ๆ
ผจก.ทั่วไป เจ๊บเซ่นฯ กล่าวต่อว่า ในส่วนของการนำเข้าผลิตภัณฑ์ประเภท StereoHeadphone จำนวน 10 รุ่น ได้แก่ SK Pro DJ, Titanium, GI, Hesh, Skullcrusher,Skullcandy Noise Cancelling, Recruit, Lowrider, Smokin’ Bud and Full MealJacket Earbud เพื่อบุกตลาดในช่วงไฮซีซัน เริ่มวางจำหน่ายแล้วในเดือน ธ.ค.2550นี้ โดยเหตุผลของการนำเข้า และจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ สคัลแคนดี้ เนื่องจาก เจ็บเซ่นฯ มีประสบการณ์และความชำนาญในด้านผลิตภัณฑ์ไอที ประเภทดิจิตอลไลฟ์สไตล์ จึงทำให้ทราบถึงความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ที่มีความทันสมัยในเรื่องของไอทีอยู่แล้ว แถมยังให้ความสำคัญในเรื่องของแฟชั่นและการดีไซน์ ที่สอดคล้องกับจุดเด่นของ Stereo Headphone เป็นอย่างดี
นายจรัสพงศ์ กล่าวถึงกลยุทธ์ทางการตลาดว่า ภายในปี 2551 บริษัทฯ เน้นช่องทางการจัดจำหน่ายในด้าน DJ, IT, Fashion, Gadget ที่สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายโดยตรงอย่างมีประสิทธิภาพและตั้งเป้าการขายไว้ที่100 ล้าน พร้อมกันนี้เพื่อตอบสนองต่อความต้องการอย่างครบวงจรมากยิ่งขึ้นทางบริษัทฯ ได้เตรียมนำเข้าอุปกรณ์หูฟังสำหรับกลุ่มมัลติมีเดีย และแอสเซทซารี่อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น หูฟังสำหรับมือถือ เป็นต้นเพื่อเพิ่มทางเลือกและครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายที่กว้างขวางขึ้นและคาดว่าวางจำหน่ายได้อย่างครบวงจรใน ต้นปี 2008 อย่างแน่นอน

ไซแมนเทค เข้าซื้อ บ.วอนทู

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท ไซแมนเทค คอร์ปอเรชัน ได้ประกาศความสำเร็จในการซื้อกิจการ บริษัท วอนทู อิงค์ ที่เสร็จสิ้นลงเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายนที่ผ่านมา วอนทู เป็นผู้นำด้านโซลูชันเพื่อการป้องกันข้อมูลรั่วไหล (Data Loss Prevention) ที่ผสานรวมเทคโนโลยีสำหรับระบบเครือข่าย และเทคโนโลยีด้านเอนด์พ้อยต์เข้าไว้ด้วยกัน เพื่อช่วยในเรื่องของการตรวจจับความผิดปกติในระบบได้อย่างแม่นยำ พร้อมปกป้องข้อมูลลับได้โดยอัตโนมัติ ไม่ว่าข้อมูลเหล่านั้นจะถูกจัดเก็บไว้ที่ไหน หรือมีการเรียกใช้งานจากที่ใดก็ตาม
รายงานข่าวแจ้งว่า การรวมกันครั้งนี้มีการประกาศข้อตกลง ในการควบกิจการระหว่างไซแมนเทคและวอนทู ไปเมื่อเดือน พ.ย.2550 โดยมีราคาการซื้อขายสำหรับธุรกรรมในครั้งนี้อยู่ที่ 350 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 11,900 ล้านบาท โดยจะมีการชำระในรูปแบบของเงินสดและทางเลือกบางประการตามที่ได้คาดการณ์ล่วงหน้า สำหรับโซลูชันเพื่อการป้องกันข้อมูลรั่วไหลนี้ ช่วยองค์กรปกป้องการสูญหายของข้อมูลที่เป็นความลับหรือข้อมูลที่เป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัท ไม่ว่าข้อมูลเหล่านี้จะถูกจัดเก็บไว้ที่ไหน หรือมีการเรียกใช้งานจากที่ใดก็ตาม
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า ผลิตภัณฑ์จากวอนทู จะช่วยเติมเต็มสายผลิตภัณฑ์ที่ไซแมนเทคมีอยู่ ทั้งในส่วนของโซลูชันเอนด์พอยต์ สตอเรจ และคอมไพลแอนซ์ ทำให้สามารถนำเสนอแพลตฟอร์มเพื่อการปกป้องการรั่วไหลของข้อมูล ที่ครอบคลุมและสมบรูณ์แบบที่สุดในตลาดปัจจุบัน การควบกิจการนี้เกิดขึ้นจากฐานการเป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่งระหว่างไซแมนเทคและวอนทู โดยจะช่วยให้ไซแมนเทคสามารถนำเสนอองค์ประกอบที่สำคัญภายใต้วิสัยทัศน์ ซีเคียวริตี้ 2.0 ที่ยกระดับการมุ่งเน้นเรื่องความปลอดภัย จากอุปกรณ์และระบบรักษาความปลอดภัยไปสู่รูปแบบของการป้องกันข้อมูลได้ในตัวเอง

อัสซุสคว้าไอเอฟดีไวน์อะวอร์ด 2008

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อไม่นานมานี้ สถาบัน อินดัสตรี ฟอรั่ม ที่เป็นสถาบันการออกแบบชั้นนำระดับโลก ประกาศให้ โน้ตบุ๊ค เว็บแคม และ แอลซีดี มอนิเตอร์ ของ บริษัท อัสซุส พิชิตรางวัลทรงเกียรติด้วยนวัตกรรมการออกแบบยอดเยี่ยม รางวัล 2008 ไอเอฟ ดีไซน์ อะวอร์ด ได้ประกาศผลผลิตภัณฑ์ชนะเลิศประจำปี โดยผลิตภัณฑ์ของอัสซุสหลายชิ้นได้รับการคัดเลือกให้ได้รับรางวัลชนะเลิศ ไอเอฟ ดีไซน์ อะวอร์ด ได้แก่ แอลซีดี มอนิเตอร์ รุ่น LS201, โน้ตบุ๊กตระกูล จี-ซีรีส์ (G-Series) และเว็บแคมรุ่น BrightCam V30
รายงานข่าวแจ้งว่า ทั้งนี้รางวัล ไอเอฟ อะวอร์ด จัดโดยสถาบัน อินดัสตรี ฟอรั่ม ที่เป็นสถาบันการออกแบบชั้นนำระดับโลก โดยรางวัลนี้เปรียบเสมือนกับวางวัล “ออสการ์” สาขาการออกแบบ ที่จัดขึ้นทุกปี เพื่อมอบให้กับผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่มีความโดดเด่นในด้านการออกแบบในแต่ละประเภท โดยรางวัล ไอเอฟ อะวอร์ดนี้ จะมอบให้เฉพาะผลิตภัณฑ์ ที่ออกแบบได้ยอดเยี่ยมที่สุดของแต่ละประเภทเท่านั้น เพื่อเผยแพร่ในสื่อต่างๆ ทั่วโลก

อีเอ็มซีรุกตลาดเฮลธ์แคร์หนุนธุรกิจการแพทย์ไทย

นายอัคคมณฑ์ ศรีหิรัญ ผู้จัดการฝ่ายบริการ บริษัท อีเอ็มซี อินฟอร์เมชั่น ซิสเต็มส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ในช่วงปี 2550 นี้ถึงปี 2551 ธุรกิจโรงพยาบาลไทยมีรายได้โดยรวมทั้งหมดน่าจะอยู่ไม่ต่ำกว่า 1 แสนล้านบาท เพราะในปีนี้ตลาดเฮลธ์แคร์มีการเติบโตขึ้น เกือบทุกโรงพยาบาลมีการจัดซื้อจัดหาเพิ่มขึ้น ทั้งลูกค้าใหม่และลูกค้าเก่า โดยวัดจากจำนวนลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ ขณะนี้ โรงพยาบาลในเมืองไทยหลายแห่งจะเปลี่ยนเป็น ศูนย์กลางทางการแพทย์ แบบเดียวกับที่หลายๆ โรงพยาบาลกำลังทำอยู่ ไม่ว่าจะเป็น โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ หรือ โรงพยาบาลกรุงเทพ ที่ขณะนี้ กำลังสร้างศูนย์รองรับผู้ป่วย เช่นโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์มีผู้ป่วยที่เป็นชาวต่างชาติ มากกว่าโรงพยาบาลทุกแห่งในสิงคโปร์ ปัจจัยที่สำคัญที่สุดส่วนหนึ่ง คือ ค่ารักษาพยาบาลของโรงพยาบาลไทยถูกกว่า และการบริการที่ดี เชื่อว่า 5-6 ปีข้างหน้าธุรกิจโรงพยาบาลของไทยน่าจะ ยึดครองตลาดศูนย์กลางทางการแพทย์จากสิงคโปร์ได้ เนื่องจากในปี 2550 ที่ผ่านมาประเทศไทยมีคนไข้เป็นชาวต่างชาติ 1 ล้านคนต่อปี 50% ตั้งใจเข้ามารักษาพยาบาลในเมืองไทยและอีก 50% เป็นนักท่องเที่ยว
ผจก. ฝ่ายบริการ อีเอ็มซี กล่าวอีกว่า ประเทศส่วนใหญ่ที่เข้ามา 4 อันดับแรก คือ สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น อังกฤษ ในตะวันออกกลาง โดยเฉลี่ยค่าใช้จ่าย 30,000 บาท ต่อคน ถ้าพูดถึงปริมาณจำนวนแพทย์มีประมาณ 1 คนต่อคนไข้ 20,000 คน ต้องรับผิดชอบคนไข้เฉลี่ย 3,400 คนถือว่าสูงเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ หากสามารถนำไอทีมาช่วยได้ จะช่วยลดเวลาในการรักษาของแพทย์ โดยการส่งโซลูชั่นที่เกี่ยวกับการเก็บข้อมูลผู้ป่วย หน่วยงานของเวชระเบียนต่างๆ ให้เกิดความสะดวกในการใช้งานมากยิ่งขึ้น
นายอัคคมณฑ์ กล่าวถึงอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล EMC Centera ว่า จะเป็นโซลูชั่นหนึ่งที่จะช่วยให้การบริหารจัดการส่วนจัดเก็บภาพดิจิตอลระยะยาว มีขนาดเพิ่มขึ้น รวมทั้งรองรับการเข้าถึงข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว การตรวจสอบความถูกต้องของเนื้อหา และขยายพื้นที่ได้ถึงระดับเพตะไบต์ เพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในการจัดเก็บข้อมูลระยะยาวสำหรับแอพลิเคชันหลักๆ เช่นแอพลิเคชันจาก Agfa docSTAR Eleckta, GE Healthcare, McKesson, Microsoft Exchange, Philips และ Fujifilm Medical โดยทางอีเอ็มซีมีบริการให้เลือกหลายระดับ ไม่ว่าจะเป็น Platinum, Gold , Silver และ Bronze ลูกค้าสามารถเลือกได้ตามความต้องการของ
ผจก. ฝ่ายบริการ อีเอ็มซี กล่าวด้วยว่า ในปี 2551 จะมีการผลักดันโรงพยาบาลให้เป็นธุรกิจเต็มรูปแบบ คือ มีโปรแกรมสุขภาพ เป็นการสร้างความมั่นใจให้กับคนไข้ว่าจะกลับมาแข็งแรงเหมือนเดิม และส่วนใหญ่คนไทยจะหันมาสนใจสุขภาพกันมาก บางที่อาจมีการสร้างอพาร์ตเมนท์ญาติผู้ป่วย เกือบทุกที่ยอมรับว่า การที่เทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาใช้ ถือเป็นการยกระดับโรงพยาบาลอีกอย่างหนึ่ง และสิ่งนี้คือแนวทางการตลาดที่หลายโรงพยาบาลจะพัฒนาต่อไป

โน้ตบุ๊กราคา8พันบาทบุกไทย+อัสซุสฯตั้งเป้า5,500เครื่อง เขย่าตลาดนักเรียน นักศึกษา/เอเซอร์-เอชพี เจ้าต

อัสซุสเทค มั่นใจโน็ตบุ๊กราคา 8 พันบาทอีอีอี พีซี กระแสตอบรับสูง ลูกค้าติดต่อขอข้อมูลอย่างต่อเนื่อง ระบุยอดซื้อวันแรกในไต้หวันทำสถิติแซงหน้าไอพอด ขณะที่ค่ายคู่แข่งเอเซอร์-เอชพี เชื่อไม่กระทบ ระบุสเปคต่ำกว่าโน้ตบุ๊ก ขณะที่อินเทล ชี้สร้างตลาดกลุ่มใหม่เริ่มต้นใช้คอมพิวเตอร์
นายพรเทพ วัชรอำนวย ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัทอัสซุสเทค คอมพิวเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยกับฐานเศรษฐกิจว่าบริษัทเตรียมเปิดตัว อัสซุส อีอีอี พีซี คอมพิวเตอร์เพื่อการศึกษาหาความรู้ ทำงาน หรือ เอนเตอร์เทนเมนท์ ในรูปแบบต่างๆ โดยมุ่งเจาะกลุ่มนักเรียน นักศึกษา คนทำงานที่ต้องการโน้ตบุ๊กตัวที่สอง แม่บ้าน จนถึงผู้สูงอายุ ซึ่งไทยเป็นประเทศที่ 3 ต่อจากไต้หวัน และฮ่องกง ที่จำหน่ายเครื่อง อีอีอี พีซี
ในไต้หวันเปิดตัววันแรกมียอดซื้อ 2,000 เครื่อง ทำลายสถิติยอดซื้อขายแซงหน้าไอพอด ส่วนเมืองไทยเชื่อว่าจะได้รับการตอบรับจากตลาดเป็นอย่างดี เนื่องจากที่ผ่านมีกระแสความต้องการ โดยการสอบถามข้อมูลอีอีอี พีซี จากลูกค้าเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งล็อตแรกจะนำเข้ามาทำตลาด300-500 เครื่อง เพราะโรงงานผลิตไม่ทัน
นายพรเทพ กล่าวอีกว่า หลังจากเปิดตัว อีอีอี พีซี วันที่ 29 ตุลาคม2550นี้ จะเริ่มเข้าไปเจรจากับหน่วยงานภาครัฐ ทั้งกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือไอซีที และกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อจำหน่ายไปยังภาคการศึกษา และจะนำไปโชว์ในงานไอซีทีเอ็กซ์โป
ส่วนราคาอีอีอี พีซี ที่ร่วมมือกับภาครัฐจะมีราคาจำหน่ายประมาณ 199 ดอลล่าร์สหรัฐ หรือ ราคาเกือบ 7,000 บาท โดยตั้งเป้าถึงสิ้นปีนี้จำหน่ายเครื่องคอมพิวเตอร์ได้ถึง 5,500 เครื่อง
สำหรับคุณสมบัติหลักของเครื่องรุ่นดังกล่าวนั้น คือมีหน้าจอขนาด 7 นิ้ว ใช้ตัวประมวลผลอินเทล เพนเที่ยม เอ็ม ขนาดความเร็ว 900 เมกะเฮิร์ตซ์ หน่วยความจำ 512 เมกะไบต์ ติดตั้งโมเด็มในตัว รองรับการเชื่อมต่อแบบไร้สาย ไว-ไฟ มาตรฐาน 802.11b/g ติดตั้งไมโครโฟน น้ำหนัก 0.92 กิโลกรัม ไม่มีฮาร์ดดิสก์ แต่ใช้แฟลชไดร์ฟ ในการจัดเก็บข้อมูล โดยรุ่นที่นำเข้ามาทำตลาดในไทยมีทั้ง 4 รุ่น คือ 1. รุ่น อีอีอี พีซี 2 จี SURF ที่มีแฟลชไดร์ฟ ขนาดความจุ 2 กิ๊กะไบต์ ไม่มีกล้องดิจิตอล ราคา 8,490 บาท , 2. รุ่นอีอีอี พีซี 4 จี SURF ที่มีแฟลชไดร์ฟขนาดความจุ 4กิ๊กะไบต์ ไม่มีกล้อง ราคา 10,900 บาท รุ่นอีอีอี พีซี 4 จี ที่มีแฟลชไดร์ฟขนาดความจุ 4 กิ๊กะไบต์ ติดตั้งกล้องดิจิตอลในตัว ราคา 11,900 บาท และรุ่นอีอีอี พีซี 8 จี ที่มีแฟลชไดร์ฟขนาดความจุ 8 กิ๊กะไบต์ ติดตั้งกล้องในตัว ราคา 15,900 บาท
ด้านนายนิธิพัทธ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ผู้จัดการตลาดอาวุโส บริษัทเอเซอร์คอมพิวเตอร์ จำกัด กล่าวว่าขณะนี้กำลังติดตามกระแสการตอบรับจากตลาดก่อน อย่างไรก็ตามคิดว่าคอมพิวเตอร์รุ่นนี้ไม่น่าส่งผลกระทบกับตลาดคอมพิวเตอร์พกพาหรือโน้ตบุ๊ก โดยเฉพาะกลุ่มผู้เริ่มต้นใช้งาน ซึ่งส่วนใหญ่มีความต้องการโน้ตบุ๊กที่มีคุณสมบัติการทำงานครบครัน กลุ่มผู้ซื้อ อีอีอี พีซี น่าจะเป็นตลาดกลุ่มใหม่ ที่อยู่ระหว่างผู้ที่ต้องการคอมพิวเตอร์พกพาขนาดมือถือหรือพีดีเอโฟนกับโน้ตบุ๊กมากกว่า หรือผู้ที่มีคอมพิวเตอร์ หรือโน้ตบุ๊กแล้ว แต่ต้องการเครื่องน้ำหนักเบา ราคาถูกในการทำงาน
ส่วนนายประวีณ วรพฤกษ์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด กลุ่มธุรกิจเพอร์ซัลแนล ซิสเต็มส์ บริษัทฮิวเล็ตต์ แพคการ์ด (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ไม่คิดว่าอีอีอี พีซี จะเข้ามากระทบกับยอดขายโน้ตบุ๊กของบริษัท เนื่องจาก ไม่มีคุณสมบัติการทำงานแบบฟูลฟังค์ชั่น และราคาไม่ใช่ประเด็นสำคัญในการตัดสินใจซื้อโน้ตบุ๊กอย่างเดียว บริษัทเคยทำราคาโน้ตบุ๊กจำหน่ายในงานเทรดโชว์ต่างๆ ประมาณ 12,900 บาท แต่รุ่นที่ขายดีสุดเป็นรุ่นราคาประมาณ 30,000 กว่าบาท
นายเอกรัศมิ์ อวยสินประเสริฐ กรรมการผู้จัดการ บริษัทอินเทล ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่าอีอีอี พีซี น่าจะเข้ามาสร้างตลาดกลุ่มใหม่ๆ ขึ้นมา โดยเฉพาะกลุ่มเด็กประถมที่ต้องการถือคอมพิวเตอร์ไปโรงเรียน โดยเด็กเหล่านี้มีประสบการณ์การเล่นเกมคอนโซนที่มีหน้าจอขนาดเล็กอยู่แล้ว หรือกลุ่มแม่บ้านที่ต้องการอุปกรณ์ท่องอินเตอร์เน็ต หรืออาจเป็นกลุ่มนักศึกษาที่มีงบประมาณจำกัด แต่ต้องการเครื่องโน้ตบุ๊กที่มีความสามารถการทำงานครบ
ขณะที่แหล่งข่าวจากวงการคอมพิวเตอร์รายหนึ่ง กล่าวว่าตลาดโน้ตบุ๊กแบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ บน กลาง และล่าง ราคาประมาณ 20,000 บาท แต่ อีอีอี พีซี เป็นตลาดกลุ่มใหม่ในกลุ่มโน้ตบุ๊กระดับล่าง โดยมีสเปคต่ำกว่าโน้ตบุ๊กระดับล่าง ที่มีราคาขายประมาณ 20,000 บาท ซึ่งในการเลือกซื้อนั้นผู้ใช้จะต้องตระหนักว่าต้องการใช้งานอะไร เนื่องจากมีหน้าจอขนาดเล็กเก็บข้อมูลได้ไม่มาก ไม่มีฮาร์ดดิสก์ ใช้แฟลชไดร์ฟ จัดเก็บข้อมูล แต่มีคุณสมบัติการทำงานเหมือนคอมพิวเตอร์ทุกประการ